“แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”.
เหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจและมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในโซเชียลมีเดีย มีบางคนแสดงความกังวลว่าประเทศเพื่อนบ้านอาจเคลมว่าเป็นผลงานของตนเอง แต่ก็มีบางคนชี้แจงว่าก่อนหน้านี้ กัมพูชาเคยพยายามยื่นเรื่องให้ยูเนสโกยอมรับว่า “พระอภัยมณี” เป็นวรรณกรรมของตน แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากเป็นผลงานของสุนทรภู่ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของไทยที่ยูเนสโกยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญระดับโลก
หลายความคิดเห็นบอกว่ากัมพูชาพยายามเคลมวรรณคดีไทยหลายครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และยังมีการนำพระอภัยมณีไปสร้างเป็นละครทีวีในกัมพูชาอีกด้วย มีบางความคิดเห็นกล่าวถึงความพยายามของกัมพูชาในการยื่นเรื่องอื่นๆ เช่น ชุดแต่งงานที่คล้ายชุดไทย แต่ก็ถูกปฏิเสธจากยูเนสโกเช่นกัน บางคนวิจารณ์ว่าทำไมหน่วยงานไทยไม่ออกมาปกป้องหรือทำอะไรบ้าง.
ความคิดเห็นหลากหลายนี้สะท้อนถึงความภาคภูมิใจในวรรณคดีและวัฒนธรรมไทย และความต้องการให้ประเทศเพื่อนบ้านยอมรับความเป็นเจ้าของที่แท้จริงของผลงานนี้ โดยชาวไทยต่างยกย่องสุนทรภู่ในฐานะบุคคลสำคัญและนักกวีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งทุกคนรู้จักและยอมรับในผลงานของท่าน.
สุนทรภู่ได้ลอบรักกับหญิงสาวชาววังหลังชื่อแม่จันทร์ ซึ่งนำไปสู่การถูกลงโทษจำคุก เมื่อพ้นโทษแล้ว สุนทรภู่ได้เดินทางไปหาบิดาที่บวชเป็นพระอยู่ที่บ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ต่อมาเขาได้สมัครเป็นมหาดเล็กของพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ พระโอรสในกรมพระราชวังหลัง และเริ่มแต่งผลงานสามเรื่อง ได้แก่ นิทานคำกลอนเรื่องโคบุตร นิราศเมืองแกลง และนิราศพระบาท ในช่วงปีพุทธศักราช 2349 ถึง 2350
ในปีพุทธศักราช 2363 สุนทรภู่เข้ารับราชการในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 และได้รับตำแหน่งขุนสุนทรโวหาร ขณะติดคุกจากการทำร้ายญาติผู้ใหญ่ของแม่จันทร์ เขาเริ่มแต่งนิทานคำกลอนเรื่องพระอภัยมณี ชีวิตของสุนทรภู่ตกอับในช่วงรัชกาลที่ 3 ส่งผลให้ต้องสร้างสรรค์ผลงานมากมายเพื่อเลี้ยงชีพ ก่อนจะกลับมาได้ดีในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยได้รับราชการเป็นพระสุนทรโวหาร.
สุนทรภู่ถึงแก่กรรมในปีพุทธศักราช 2398 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ผลงานเรื่องสุดท้ายของเขาคือบทละครเรื่องอภัยนุราช สุนทรภู่เป็นกวีในสมัยรัตนโกสินทร์ที่มีชีวิตและสร้างสรรค์ผลงานในสี่รัชกาล จึงได้รับการขนานนามว่า “กวีสี่แผ่นดิน” ผลงานของสุนทรภู่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจนได้รับการขนานนามว่า “เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย” สุนทรภู่มีความชำนาญทางด้านกลอนเป็นพิเศษ และได้ปรับปรุงกลอนโบราณจนมีลักษณะเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีความไพเราะด้วยการใช้คำสัมผัสในกลอนทุกวรรค และใช้คำง่าย ๆ เพื่อให้ผู้ฟังและผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้ชัดเจน.
ผลงานที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากที่สุดของสุนทรภู่คือ “พระอภัยมณี” ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต ความรัก และการผจญภัยของพระอภัยมณี รวมทั้งตัวละครอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สุนทรภู่ได้สร้างเนื้อหาที่แปลกใหม่โดยนำเรื่องราวจากแหล่งต่าง ๆ มาผสมผสานกันเพื่อสร้างเรื่องราวที่สนุกและตื่นเต้น แหล่งที่มาของพระอภัยมณีมีทั้งนิทาน การเมืองการปกครองของต่างประเทศ วัฒนธรรมของต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของชาวตะวันตก และนิทานไทย.