โดยมีการระบุว่ามีกระแสญี่ปุ่นฟีเวอร์ที่เกิดขึ้นในไทย ซึ่งมีส่วนช่วยเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างมาก สื่อดังของญี่ปุ่นถึงกับลงทุนบินมาถ่าย Time Scope ที่ J Park จังหวัดชลบุรี และฮาราจูกุไทยแลนด์ในกรุงเทพฯ ซึ่งตกแต่งเหมือนญี่ปุ่นและมีสินค้าญี่ปุ่นมากมาย.
ย้อนกลับไปในปี 2021 ที่เริ่มเกิดวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด-19 คนไทยไม่สามารถไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ แต่ในปี 2022 การนำเข้าสินค้าญี่ปุ่นกลับเพิ่มขึ้นจากปี 2020 เกือบ 2 เท่า สินค้าประเภทชาเขียวและมัทฉะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นถึง 37.6% จากยอดขาย 136 ล้านเยนเป็น 638 ล้านเยน.
อีกตัวอย่างคือธุรกิจเครื่องเคลือบที่เคยมีการแข่งขันสูงจนผู้ค้ารายเล็กแทบไม่รอด แต่จากออเดอร์ของไทย โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม ทำให้ธุรกิจเครื่องเคลือบกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง เจ้าของธุรกิจถึงกับบอกว่าขอบคุณคนไทยที่ช่วยให้ธุรกิจพวกเขารอดและเติบโต ยอดขายจากไทยขายได้มากถึง 70 ล้านเยนหรือเกือบ 18 ล้านบาท จนสามารถจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นได้.
ข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ในญี่ปุ่นเพราะทำให้เห็นว่าประเทศไทยมีส่วนช่วยให้ธุรกิจในญี่ปุ่นฟื้นตัวได้ และทำให้มุมมองระหว่างไทยกับญี่ปุ่นดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองประเทศต่างขอบคุณและมองเห็นคุณค่าซึ่งกันและกัน.
คลิปวีดีโอที่เผยแพร่ออกไปมีคนสนใจเข้ามารับชมกว่า 800,000 วิว มีคนแสดงความคิดเห็นมากมาย บางคนบอกว่าเป็นเรื่องน่าชื่นใจและอยากไปเยี่ยมชมซื้อของที่ไทย บางคนเล่าว่าผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่นมีคุณภาพและสวยงามจนคนไทยมองว่าเป็นของหรูหราและใช้ตกแต่งบ้าน ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยส่วนใหญ่ใช้เครื่องปั้นดินเผาจากญี่ปุ่นเพื่อความสมจริง.
ชาวญี่ปุ่นบางคนคอมเมนต์ว่าพวกเขาไม่เคยลืมความเมตตาที่คนไทยเคยมอบข้าวให้เมื่อครั้งญี่ปุ่นไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวได้ บางคนสังเกตเห็นว่ารถ EV ของจีนกำลังเฟื่องฟูในไทยและแนะนำให้ญี่ปุ่นพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น.
มีคอมเมนต์จากชาวญี่ปุ่นอีกว่าพลังของวัฒนธรรมและซอฟต์พาวเวอร์นั้นแข็งแกร่งมาก ทำให้การผลิตสินค้าญี่ปุ่นมีความหรูหราและคนต้องทุ่มเทความพยายามมากขึ้น การดำเนินธุรกิจแบบคนญี่ปุ่นก็ได้รับการชื่นชมจากคนไทย.
ธุรกิจเครื่องเคลือบของญี่ปุ่นเติบโตได้ดีในเกาหลีใต้เช่นกัน แต่ในจีนไม่ค่อยเติบโตเท่าไหร่ บางคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นว่ามีมุมมองที่ต่างออกไป แต่ในภาพรวมถือเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจที่ทั้งไทยและญี่ปุ่นมีส่วนช่วยกันและกันให้เติบโตขึ้น.
