การที่ร้านค้าลาวหลายแห่งเริ่มปฏิเสธการรับเงินบาทและกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท เท่ากับ 250 กีบ (ซึ่งไม่มีการแลกเปลี่ยนจริง) เป็นกระแสที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในลาวอย่างมาก การกระทำเช่นนี้อาจทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกไม่มั่นใจในการใช้จ่ายและทำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังลาว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมที่กำลังประสบปัญหาอยู่แล้ว.
การปฏิเสธการรับเงินบาทซึ่งเป็นสกุลเงินที่นักท่องเที่ยวไทยและผู้ประกอบการท้องถิ่นในลาวนิยมใช้กัน อาจสร้างความไม่สะดวกสบายและไม่มั่นใจในเรื่องการทำธุรกรรมการเงินให้แก่นักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางเข้ามาในลาวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การกระทำเช่นนี้อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในลาวซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ.
หากกระแส “บ่เอาเงินบาท” ยังคงมีอยู่ต่อไป มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในลาวดังนี้:
1. นักท่องเที่ยวลดลง: นักท่องเที่ยวจากไทยและประเทศอื่นๆ อาจเลือกที่จะไม่เดินทางไปยังลาวหากรู้สึกไม่มั่นใจในเรื่องการทำธุรกรรมการเงิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างมาก.
2. ธุรกิจท้องถิ่นได้รับผลกระทบ: ร้านค้า โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในลาวที่พึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้หลักอาจประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ.
3. ภาพลักษณ์ของประเทศ: การปฏิเสธการรับสกุลเงินต่างประเทศและการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นธรรม อาจทำให้ลาวมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสายตาของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างประเทศ.
4. ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ: การลดการเข้ามาของเงินตราต่างประเทศอาจทำให้เศรษฐกิจของลาวมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังประสบปัญหา.
ทางแก้ไขที่สำคัญอาจรวมถึงการเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวโดยการยืนยันว่าจะมีการรับสกุลเงินต่างประเทศในร้านค้าและสถานที่ต่างๆ ในลาว การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นธรรมและโปร่งใส รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีความมั่นคงและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง.
