เมื่อเร็ว ๆ นี้ เกิดประเด็นไวรัลบนสื่อโซเชียลในลาวเกี่ยวกับสถานการณ์ของแรงงานลาวในประเทศไทย รัฐบาลลาวได้ออกคำสั่งให้แรงงานลาวทุกคนที่มาทำงานในประเทศไทยกลับสู่ สปป.ลาว เนื่องจากค่าเงินกีบอ่อนค่าลงอย่างมาก โดยเรทกลางของธนาคารลาวในวันที่ 10 กรกฎาคม ระบุว่า 1 บาทไทยเท่ากับ 6,099.12 กีบ และ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 22,500 กีบ.
ความคิดเห็นจากชาวลาว
เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวลาวจำนวนมากออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อโซเชียลต่าง ๆ โดยความคิดเห็นส่วนใหญ่สะท้อนถึงความทุกข์ยากที่ต้องเผชิญ เช่น
- “เห็นอัตราแลกเปลี่ยนแบบนี้ก็อยากจะร้องไห้แล้ว ทำอะไรไม่ได้”
- “ค่าเงินเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน จะให้ทำยังไง?”
- “ตอนนี้แทบจะกินเกลืออยู่แล้ว เงินแทบจะไม่พอใช้จ่ายอยู่แล้ว”.
บางความคิดเห็นก็แสดงถึงความสิ้นหวังและไม่พอใจกับนโยบายของรัฐบาล:
- “รัฐบาลลาวเรียกคนลาวให้กลับไปเพราะเป็นห่วงนายทุน แต่ไม่เป็นห่วงประชาชนคนลาวเลย”
- “ค่าแรงขั้นต่ำที่ลาวไม่เหมาะสมกับค่าครองชีพเลย การที่คนลาวมาทำงานในเมืองไทยเพราะว่ารายได้ดีกว่าและมีสวัสดิการที่ดีกว่า”.
สถานการณ์เศรษฐกิจในลาว
การอ่อนค่าของเงินกีบและเศรษฐกิจที่ถดถอยทำให้ชีวิตของชาวลาวยากลำบากมากขึ้น สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้นทุกวัน แต่ค่าแรงขั้นต่ำยังไม่เพิ่มขึ้นตาม นอกจากนี้ ยังมีการตั้งโรงงานในลาวเพื่อผลิตสินค้าให้กับคนลาวใช้เอง เพื่อลดการนำเข้าสินค้าจากไทย แต่ราคาสินค้าในลาวก็ยังสูงอยู่.
ปัญหาการเรียกแรงงานกลับประเทศ
รัฐบาลลาวได้ออกคำสั่งให้แรงงานลาวกลับประเทศ โดยให้พ่อแม่เรียกลูกหลับที่ทำงานในเมืองไทยกลับบ้าน เพื่อตอบสนองแผนการผลิตสินค้าในประเทศและลดการนำเข้าสินค้าจากไทย แต่หลายคนสงสัยว่านโยบายนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจของลาวดีขึ้นได้จริงหรือไม่ เพราะงานในประเทศลาวมีน้อยและค่าแรงต่ำกว่าที่ได้รับในประเทศไทย.
ความเห็นของชาวลาว
หลายคนมองว่าการทำงานในเมืองไทยเป็นทางเลือกที่ดีกว่า:
- “การที่คนลาวมาทำงานในเมืองไทยเพราะว่ารายได้ที่ได้รับก็เพียงพอกับการใช้จ่ายเพื่อดำรงชีพอยู่”
- “สินค้าไทยดีและมีคุณภาพมากกว่า สินค้าในไทยก็ราคาถูกกว่าในลาว”
แม้จะมีการเรียกแรงงานกลับประเทศ แต่หลายคนยังคงเชื่อว่าการทำงานในประเทศไทยเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการหาเลี้ยงครอบครัวและมีชีวิตที่ดีกว่า.