ประเทศลาวกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าทุกด้าน ทำให้เรื่องหนี้สินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการชำระหนี้ให้แก่จีน กลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ยิ่งกว่าเดิม ในอดีต ลาวเคยผัดผ่อนการชำระหนี้ให้แก่จีนมาแล้วสองครั้ง แต่ทว่าการเงินทุนสำรองของประเทศยังคงไม่เพียงพอในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการชำระหนี้.
ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจจากหลายสำนักของต่างประเทศคาดการณ์ว่า ลาวอาจต้องใช้วิธีการยกสิทธิ์ในการควบคุมเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่จีน เพื่อปลดหนี้ สาเหตุที่คาดการณ์เช่นนี้เป็นเพราะกว่า 70 เขื่อนในลาวได้รับการสนับสนุนจากจีน นอกจากนี้ โครงการรถไฟลาว-จีนก็มีบริษัทจีนถือหุ้น 70% ขณะที่รัฐบาลลาวถือหุ้นเพียง 30% เท่านั้น อีกทั้งการไฟฟ้าลาวไม่มีเงินทุนสร้างสายส่งไฟฟ้า จึงต้องให้สัมปทานแก่บริษัท China Southern Power Grid ในการส่งออกไฟฟ้าไปจีนเป็นระยะเวลา 25 ปี.
เรื่องนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมลาว โดยเฉพาะในหมู่ประชาชนที่กังวลถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่ออธิปไตยของประเทศ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ เริ่มมีชาวลาวบางคนมีแนวคิดอยากให้จีนเข้ามาควบคุมประเทศ เพราะเชื่อว่าการเป็นคนจีนจะทำให้พวกเขาสบายมากขึ้น ความภาคภูมิใจในการเป็นคนลาวของประชาชนบางส่วนกำลังเข้าสู่จุดวิกฤติ.
แม้แนวคิดนี้จะเป็นเพียงความคิดเห็นของประชาชนบางส่วน แต่ก็เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความหมดหวังและความต้องการในการหาทางออกจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การตัดสินใจของรัฐบาลลาวในอนาคตเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินจะเป็นสิ่งที่ชาวโลกต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาอธิปไตยของประเทศได้หรือไม่.