เกาหลีใต้วอนคนไทยยกเลิกแบนเที่ยวเกาหลี สภาเกาหลีรีบตั้งโครงการสานสัมพันธ์ไทยเป็นการด่วน

ช่วงนี้ เกาหลีใต้และไทยกำลังเผชิญกับความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้ที่นำไปสู่กระแสในโซเชียลมีเดียของไทย ทำให้เกิดการแบนการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ แม้ว่าหน่วยงานท่องเที่ยวของเกาหลีใต้จะพยายามประสานงานเพื่อยกเว้นระบบ K-ETA ชั่วคราว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้มีความกังวลว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้อาจไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 20 ล้านคน หากนักท่องเที่ยวไทยลดลง.

เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

 

ในปี 2566 ถึง 2567 เกาหลีใต้ได้กำหนดให้เป็นปีเยือนเกาหลี-ไทย (Korea-Thailand Mutual Visit Year) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ แต่ข้อมูลล่าสุดแสดงว่านักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเกาหลีใต้ช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนลดลงถึง 21.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 76%, อินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 51%, มาเลเซียเพิ่มขึ้น 35%, เวียดนามเพิ่มขึ้น 29% และสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 11%.

 

เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระบุว่าสาเหตุที่นักท่องเที่ยวไทยลดลงเกิดจากความรู้สึกเชิงลบต่อการปฏิเสธการเข้าประเทศของเกาหลีใต้ แม้ว่าจะมีการยกเว้นระบบ K-ETA ชั่วคราวสำหรับบางประเทศ แต่ไทยไม่ได้รวมอยู่ในนั้น ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่คนไทย บางครั้งแม้จะได้รับอนุมัติจาก K-ETA แล้ว ก็ยังถูกปฏิเสธการเข้าประเทศเมื่อเดินทางไปถึงเกาหลีใต้.

นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยเป็นแหล่งผู้อพยพผิดกฎหมายในเกาหลีใต้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีการกำหนดกฎการเข้าเมืองที่เข้มงวด กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้ย้ำว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่ไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อคนไทย.

 

อีกประเด็นที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์คือ การผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทย ซึ่งทำให้ไทยเป็นชาติที่ 3 ในเอเชียที่อนุญาตให้คนเพศเดียวกันสมรสได้ สำนักข่าวเกาหลีใต้นำเสนอข่าวนี้และเกิดความเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นเชิงลบ เช่น การบอกว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผิดปกติไปแล้ว หรือการวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องที่งมงายและสกปรก.

 

สรุปคือ ปัญหาการท่องเที่ยวและความขัดแย้งทางสังคมในสองประเทศนี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งต้องการการจัดการที่รอบคอบและการสื่อสารที่ดีระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้ผลในระยะยาว.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *