นอกจากส้มตำแล้ว ส้มตำไข่เค็มยังติดอันดับที่ 20 ของการจัดอันดับนี้ด้วย Taste Atlas ระบุว่าส้มตำมีความเกี่ยวข้องกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยหรือภาคอีสาน แต่ก็มีการแนะนำว่าปรากฏครั้งแรกในประเทศลาว ส้มตำประกอบด้วยมะละกอดิบ ถั่วลิสงคั่ว ถั่วเขียว มะเขือเทศ และซอสเปรี้ยวที่ทำจากกระเทียม พริก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ กุ้งแห้ง และน้ำมะขาม
ความโดดเด่นของส้มตำคือความหลากหลายของส่วนผสมและรสชาติที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้บริโภค ร้านอาหารและแผงลอยสตรีทฟู้ดมักจะให้ลูกค้าเลือกความหลากหลายของส่วนผสมตามที่ต้องการ ส้มตำสามารถรับประทานเป็นอาหารจานหลักหรือรับประทานคู่กับข้าว เนื้อย่าง หรือปลาหมึก.
สำหรับส้มตำไข่เค็มซึ่งติดอันดับที่ 20 นั้น เป็นส้มตำแบบดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไทย โดยมีไข่เค็มเป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้ เมนูลาบกุ้งและยำวุ้นเส้นยังติดอันดับที่ 41 และ 48 ตามลำดับ
การยอมรับและความนิยมของส้มตำไม่เพียงแค่เกิดจากรสชาติที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังมาจากประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับเมนูนี้ ส้มตำมีการปรากฏในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และได้รับการผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมการบริโภคของคนไทย.
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติของส้มตำ
1. มะละกอเป็นพืชที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่ทวีปอเมริกากลาง และได้แพร่หลายเข้ามาสู่กรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ก่อนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
2. ในช่วงพุทธศักราช 2475 ถึง 2479 รัฐบาลสยามได้สนับสนุนให้ชาวไร่ชาวนาปลูกมะละกอเพื่อนำมาสกัดเอายางมะละกอสำหรับส่งขายต่างประเทศ
3. ตำราอาหารเก่าๆ อย่าง “แม่ครัวหัวป่าก์” ที่พิมพ์ครั้งแรกในพุทธศักราช 2451 ไม่มีสูตรส้มตำ มีเพียงอาหารที่ใกล้เคียงเรียกว่า “ปูตำ”
4. ร้านไก่ย่างส้มตำข้างสนามมวยราชดำเนิน เป็นแหล่งอาหารอีสานที่โด่งดังในกรุงเทพฯ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2.
ส้มตำจึงไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่อร่อยและมีรสชาติหลากหลาย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของประเทศไทยอีกด้วย.